บทเรียน
จัดระบบโครงสร้า้างข้อ้อมูล(Information Architecture)
Phase 1 : สำรวจปัจจัยสำคัญ(Research)
1. รู้จักตัวเอง-กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม
2. เรียนรู้ผู้ใช้-ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการการ
3. ศึกษาคู่แข่ง-สำรวจการแข่งขันและการเรียนรู้คู่แข่ง
สิ่งที่ได้รับ
1. เป้าหมายหลักของเว็บ
2. ความต้องการของผู้ใช้
3. กลยุทธ์ในการแข่งขัน
Phase 2 : พัฒนาเนื้อหา(Site Content)
4. สร้างกลยุทธ์การออกแบบ
5. หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
สิ่งที่ได้รับ
1. แนวทางการออกแบบเว็บ
2. ขอบเขตเนื้อหาและการใช้งาน
3. ข้อมูลที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ
Phase 3 : พัฒนาโครงสร้างเว็บไซท์(Site Structure)
6. จัดระบบข้อมูล
7. จัดทำโครงสร้างข้อมูล
8. พัฒนาระบบเนวิเกชัน
สิ่งที่ได้รับ
1. แนวทางการออกแบบเว็บ
2. ขอบเขตเนื้อหาและการใช้งาน
3. ข้อมูลที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ
Phase 4 : ออกแบบและพัฒนาหน้าเว็บ(Visual Design)
9. ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บ
10. พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย
สิ่งที่ได้รับ
1. ลักษณะหน้าตาของเว็บ
2. เว็บต้นแบบที่จะใช้ในการพัฒนา
3. รูปแบบโครงสร้างของเว็บ
4. ข้อกำหนดในการพัฒนาเว็บ
Phase 5 : พัฒนาและดำเนินการ (Production & Operation)
11. ลงมือพัฒนาเว็บ
12. เปิดเว็บไซท์
13. ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
สิ่งที่ได้รับ
1. เว็บที่สมบูรณ์
2. เปิดตัวเว็บและทำให้เป็นที่รู้จัก
ความสำคัญของระบบเนวิเกชั่น
การออกเเบบโครงสร้างข้อมูลที่ดีช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ส่วนระบบเนวิเกชั่นเป็น
ส่วนเสริมในการสร้างสิ่งเเวดล้อมที่สื่อความหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ท่องเว็บได้อย่างคล่องตัว
โดยไม่หลงทาง โดยทำให้ผู้ใช้สามารถรู้ได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ได้ผ่านที่ใดมาบ้างเเละ
ควรจะไปไหนต่อ
รูปแบบของระบบเนวิเกชั่น เเบ่งออกเป็น 4รูปแบบ
1.ระบบเนวิเกชั่นเเบบลำดับขั้น
เป็นเเบบพื้นฐาน คือ มีหน้าโฮมเพจหนึ่งหน่าเเละมีลิงค์ไปยังหน้าอื่นๆ ภายในเว็บถือเป็บลำดับ
ขั้นอย่างหนึง่เเล้ว
2.ระบบเนวิเกชั่นเเบบโกลบอล
เป็นระบบที่ช่วยเสริมข้อจำกัดของระบบเนวิเกชั่นเเบบลำดับขั้น ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้ทั้ง
ในเเนวตั้งเเละเเนวนอนอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ระบบเนวิเกชั่นเเบบโลคอล
สำหรับเว็บที่มีความซับซ้อนมากอาจต้องใช้ระบบเเบบโลคอลหรือเเบบเฉพาะส่วน
4. ระบบเนวิเกชั่นเฉพาะที่
เป็นเเบบเฉพาะที่ตามความจำเป็นของเนื้อหาซึ่งก็คือลิงค์ของคำที่ฝั่งอยู่ในประโยค เเต่ไม่ควร
ใช้มากจนเกินไป เพราะผู้ใช้อาจ มองข้ามไปทำให้ไม่สนใจ
องค์ประกอบของระบบเนวิเกชันหลัก
ระบบเนวิเกชันที่สำคัญและพบมากที่สุด คือเนวิเกชันที่อยู่ในหน้าเดียวกับเนื้อหา
ไม่ใช่เนวิเกชันที่อยู่ในหน้าแรกเนื่องจากเมื่อผู้ใช้ผ่านหน้าแรกเข้าไปสู่ภายในเว็บแล้ว
ก็ไม่อยากจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่หน้าแรกทุกครั้งก่อนจะเข้าไปดูเนื้อหาในส่วนอื่น ๆ ต่อ
มีได้หลายรูปแบบ ได้แก่ เนวิเกชันบาร์, เนวิเกชันระบบเฟรม, pull down menu,
pop up menu, image map และsearch box
เนวิเกชันบาร์
ระบบเนวิเกชันบาร์เป็นพื้นฐานที่ใช้ได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบลำดับขั้น แบบโกลบอล
และแบบโลคอล โดยทั่วไปเนวิเกชันบาร์จะประกอบด้วยกลุ่มของลิงค์ต่าง ๆ ที่อยู่
รวมกันในบริเวณหนึ่งของหน้าเว็บ อาจเป็นตัวหนังสือหรือกราฟิก ก็ได้
วิเกชันบาร์ระบบเฟรม
คุณสมบัติของเฟรมจะทำให้สามารถแสดงเว็บหลาย ๆ หน้าในหน้าต่างบราวเซอร์เดียวกัน
โดยแต่ละหน้ายังเป็นอิสระต่อกัน การลิงค์เฟรมที่เป็นเนวิเกชันบาร์สามารถควบคุมการแสดงผล
ของข้อมูลอีกเฟรมหนึ่งได้ ส่วนที่เป็นเนวิเกชันบาร์จะปรากฏอยู่คงที่เสมอ ในขณะที่ผู้ใช้เลื่อนดู
ข้อมูลใด ๆ ในอีกเฟรมหนึ่ง การแยกระบบเนวิเกชันแบบนี้ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงระบบเนวิเกชันได้
ตลอดเวลาและยังคงความสม่ำเสมอทั่วทั้งไซท์
Pull Down Menu
เป็นส่วนประกอบของฟอร์มที่มีลักษณะเด่นคือ มีรายการให้เลือกมากมายแต่ใช้พื้นที่น้อย
เมื่อเทียบองค์ประกอบชนิดอื่น ๆ วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้เลือกรายการย่อยเข้าไปสู่เป้าหมาย
ได้อย่างสะดวกเมนูแบบนี้เหมาะสำหรับข้อมูลประเภทเดียวกันที่มีจำนวนมาก
เช่น รายชื่อประเทศ จังหวัด หรือ ภาษา แต่ไม่เหมาะกับข้อมูลจำนวนน้อยหรือข้อมูลต่างประเภทกัน
และไม่ควรใช้pull down menu มากจนเกินไป
Pop Up Menu
เป็นเมนูอีกรูปแบบหนึ่งที่มีลักษณะคล้าย Pull downmenu แต่รายการย่อยของเมนูจะปรากฏขึ้นเองเมื่อผู้ใช้นำ
เมาส์ไปวางเหนือตำแหน่งของรายการในเมนูหลัก จากนั้นผู้ใช้ก็สามารถเลื่อนเมาส์ไปเลือกรายการต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้น
ได้ วิธีนี้ช่วยให้หน้าเว็บดูไม่รกเกินไปด้วยลิงค์จำนวนมากและยังช่วยประหยัดพื้นที่แสดงรายการย่อยของเมนูได้
การเลือกใช้สีให้เว็บไซต์
เลือกใช้สีสำหรับเว็บไซต์
สีสันในเว็บเพจเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ เนื่องจากสิ่งเเรกที่ผู้ใช้มองเห็นจากเว็บก็คือสี ซึ่งเป็นสิ่งกำหนดบรรยากาศเเเละความรู้สึกการใช้สีพื้นใกล้เคียงกับ
สีตัวอักษร บางครั้งอาจสร้างความลำบากในการอ่าน ดังดั้นควรหลีกเลี่ยงสีที่มีมากจนเกินไป
การใช้สีที่กลมกลืนกันช่วยให้เว็บไซต์ดูน่าชมมากขึ้น
ประโยชน์ของสีในเว็บไซต์
- สีสามารถสร้างอารมณ์ของเว็บเพจ
- สีสามารถใช้ในการดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
- สามารถส่งเสริมเอกลักษณ์หน่วยงาน หรือองค์กรนั้นๆ
- สีสามารถนำไปใช้ในการเเบ่งบริเวณต่างๆ ออกจากกัน
- สามารถชักนำสายตาผู้อ่านให้ไปยังทุกบริเวณในหน้าเว็บเพจที่เราต้องการ
- สีช่วยเชื่อมโยงบริเวณที่ได้รับการออกแบบเข้าด้วยกัน
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสี
สีขั้นที่ 1 คือ แม่สี ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน
สีขั้นที่ 2 คือ สีที่เกิดจากสีขั้นที่ 1 หรือแม่สีผสมกันในอัตราส่วนที่เท่ากัน
สีขั้นที่ 2 คือ สีที่เกิดจากสีขั้นที่ 1 หรือแม่สีผสมกันในอัตราส่วนที่เท่ากัน
จะทำให้ เกิดสีใหม่ 3 สี ได้แก่สีแดง ผสมกับสีเหลืองได้สี ส้ม สีแดง ผสมกับสีน้ำเงินได้สีม่วง
สีเหลือง ผสมกับสีน้ำเงิน ได้สีเขียว
สีขั้นที่ 3 คือ สีที่เกิดจากสีขั้นที่ 1 ผสมกับสีขั้นที่ 2 ในอัตราส่วนที่เท่ากันจะได้สีอื่น ๆ
จะเกิดสีขึ้นอีก 6สี
สีแดง ผสมกับสีส้ม ได้สี ส้มแดง
สีแดง ผสมกับสีม่วง ได้สีม่วงแดง
สีเหลือง ผสมกับสีเขียว ได้สีเขียวเหลือง
สีน้ำเงิน ผสมกับสีเขียว ได้สีเขียวน้ำเงิน
สีน้ำเงิน ผสมกับสีม่วง ได้สีม่วงน้ำเงิน
สีเหลือง ผสมกับสีส้ม ได้สีส้มเหลือง
สีเหลือง ผสมกับสีเขียว ได้สีเขียวเหลือง
สีน้ำเงิน ผสมกับสีเขียว ได้สีเขียวน้ำเงิน
สีน้ำเงิน ผสมกับสีม่วง ได้สีม่วงน้ำเงิน
สีเหลือง ผสมกับสีส้ม ได้สีส้มเหลือง